05 Oct 2021
ปัจจุบันผู้คนมากมายที่อยากจะมีบริษัทเป็นของตัวเอง แต่ว่าไม่มีความรู้เลยว่า การมีบริษัทเป็นของตัวเองนั้นจะมีภาระอะไรตามมา
เชื่อว่าหลายๆคนที่อยากมีบริษัทแต่ไม่หาข้อมูลก่อน ไปจ้างผู้รับจดบริษัทโดยอาจหาจากแหล่งที่หาได้ง่ายเช่น search google
และก็เอาเจ้าที่ราคาถูกที่สุด ซึ่งผู้รับจ้างเหล่านั้นบางทีไม่ได้ให้ความรู้อะไร นอกจากการรับจดทะเบียนบริษัทอย่างเดียว
หลายๆท่านก็ได้บริษัทมาเป็นของตนเองจริงๆ แต่ไม่รู้เลยว่าภาระที่จะตามมานั้นจะต้องทำอะไรกับบริษัทของตนบ้าง
สิ่งที่ตามมาก็คือ ปล่อยบริษัททิ้งไว้โดยที่ไม่ได้มีผู้ดูแล บัญชี หรือวางแผนภาษีให้ พอถึงเวลามารู้ตัวอีกที ก็โดนจดหมายเรียกไปเสียค่าปรับแล้ว
สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะเปิดบริษัท จะถูกแบ่งออกมาเป็น 3 หัวข้อดังต่อไปนี้
เรื่องภาษี
ภาษีจะถูกแบ่งออกมาเป็น 3 ประเภท
โดยบริษัทมีหน้าที่ในการนำส่งภาษีเหล่านี้ทุกๆเดือน ถ้าไม่นำส่งตามเวลาที่กำหนดไว้ ก็จะโดนค่าปรับแบบ เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม
คำถามที่พบบ่อยๆก็คือ แล้วถ้าไม่นำส่งล่ะจะเกิดอะไรขึ้น?
คำตอบก็คือ คุณถือว่ามีความผิดถ้าไม่นำส่งภาษี และเมื่อถึงเวลาคุณก็จะโดนจดหมายเรียกไปค่าปรับอีกอยู่ดี
เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะไม่ยื่นภาษีเอง ก็ควรหาสำนักงานบัญชีที่ไว้ใจได้เป็นคนทำแทนคุณ
ซึ่งก็จะมีหลายเคสที่พบอยู่บ่อยๆ ที่ผู้ทำบัญชีโกงภาษีของผู้ประกอบการ สุดท้ายจะตามเงินคืนก็คงจะยาก
ดังนั้นจึงจำเป็นมากสำหรับบริษัท ที่จะต้องหาสำนักงานบัญชีที่มีความน่าเชื่อถือ และไว้ใจได้
เรื่องการเตรียมทรัพยากร
ทรัพยากรที่ว่านั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองแต่อย่างใด แต่หมายถึงกำลังคนที่ท่านต้องเตรียมไว้
เพราะทุกการทำธุรกรรมของบริษัท จะต้องถูกบันทึกบัญชีไว้ ท่านจะต้องเตรียมธุรการไว้ เพื่อเตรียมเอกสารส่งบัญชี
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านพอจะมีเวลาก็สามารถทำเองได้ โดยส่วนมากบริษัทเล็กๆที่เพิ่งเริ่มกิจการ เจ้าของก็จะทำเอง
เรื่องกระบวนการจัดการทางการเงิน
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญระดับต้นๆเลยที่เจ้าของกิจการควรให้ความสำคัญ เพราะจะมีผลต่อกิจการ และตัวท่านเองด้วย
ประเด็นสำคัญที่ท่านควรรู้คือ เงินของกิจการไม่ใช่ของเจ้าของ ท่านควรเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อบริษัท และแยก เงิน
ที่ใช้ในธุรกิจ กับ เงินส่วนตัว ให้ได้ เพราะการนำเงินทั้งสองอย่างมารวมกันนั้น ถือเป็นหายนะของธุรกิจของท่าน
เพราะนอกจากท่านจะไม่รู้แล้วว่าท่านทำธุรกิจกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่แล้ว ในแง่ของบัญชีท่านก็เป็นหนี้บริษัทโดยไม่รู้ตัว
เพราะการที่ท่านเอาเงินออกจากบริษัทโดยไม่มีที่มาที่ไปนั้น นักบัญชีจะมองว่าธุรกรรมนั้นเป็นเงินกู้ยืมกรรมการ
ซึ่งบัญชีตัวนี้กรมสรรพากรเพ่งเล็งมากในปัจจุบัน จะมีผลในเรื่องของภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าการเปิดบริษัทจะไม่ดี เพราะดูยุ่งยาก และต้องมีภาระอะไรเยอะ แต่ว่าข้อดีของบริษัทนั้นมีมากมาย
จนทำให้ต้องมองข้ามสิ่งที่วุ่นวายเหล่านั้น เช่น บริษัทภาษีประหยัดภาษีได้ถ้ารายได้เยอะ บริษัทมีความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ ฯลฯ
โดยภาระต่างๆจากข้อมูลข้างต้น โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะโยนไปให้สำนักงานบัญชีช่วยแบ่งเบาภาระที่แสนจะวุ่นวายนี้ให้
สุดท้ายนี้ขอฝากให้ผู้ประกอบการใหม่ หาสำนักงานบัญชีที่น่าเชื่อถือ และมีที่มาที่ไปจะดีที่สุด
ข้อมูลโดย: บริษัท กรุงเทพการบัญชี (1975) จำกัด