บางท่านอาจจะทราบแล้ว และบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า กรมสรรพากรเริ่มตรวจเงินเข้าในบัญชีส่วนตัวของท่านได้แล้ว โดยมีผลเริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม 2563 เป็นต้นมา หลักเกณฑ์ที่จะสามารถเข้าตรวจบัญชีของท่านได้มีดังนี้
- เงินเข้า (ฝาก/รับโอน) ตั้งแต่ 3,000 ครั้งขึ้นไป ต่อปี (ไม่สนใจว่าจะมีเงินเข้ากี่บาท)
- เงินเข้า (ฝาก/รับโอน) ตั้งแต่ 400 ครั้งขึ้นไป ต่อปี (เฉพาะผู้ที่มีเงินเข้ารวมกัน 2 ล้านบาทขึ้นไปทั้งปี)
- เอาทุกบัญชีในธนาคารรวมกัน (แต่จะแยกธนาคาร)
- บัญชีที่เปิดเป็นชื่อร่วมกัน จะถูกนำมารวมด้วย
- เงินเข้ารวมถึง ดอกเบี้ย เงินปันผล และการโอนระหว่างบัญชี
สรุปสั้นๆง่ายๆ จะแบ่งเป็นเกณฑ์ได้ดังนี้
- คนที่มีเงินเข้ารวมกันเกิน 2 ล้านบาท จะนับเงินเข้าแค่ 400 ครั้งต่อปี จะเข้าเกณฑ์ที่จะต้องถูกส่งรายชื่อไปกรมสรรพากร
- คนที่มีเงินเข้ารวมกันไม่ถึง 2 ล้านบาท จะนับเงินเข้า 3,000 ครั้งต่อปี จะเข้าเกณฑ์ที่จะต้องถูกส่งรายชื่อไปกรมสรรพากร
5 เทคนิคสำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่มีดังนี้
- ถ้าธุรกิจของท่านสามารถรับเงินสดได้ ก็แนะนำให้เก็บเงินสดไว้ก่อน แล้วเอาเข้าบัญชีพร้อมกันทีเดียวไม่ควรเกิน 1 ครั้งต่อวัน (วิธีนี้ต้องจัดเก็บเงินให้ดี เพราะเงินสดเสี่ยงต่อการถูกขโมยง่ายมาก)
- ต่อเนื่องจากข้อแรก จัดโปรโมชั่นสำหรับผู้ชำระเงินเป็นเงินสด เพื่อจูงใจให้ลูกค้าชำระเงินเป็นเงินสด
- การนำเงินเข้า ให้แยกบัญชีธนาคารกระจายไปหลายๆ ธนาคาร เพราะเกณฑ์จะนับจำนวนครั้งแยกธนาคาร (แต่ไม่แยกบัญชีในธนาคารเดียวกัน)
- กระจายชื่อบัญชีธนาคาร เช่น ชื่อพ่อ แม่ พี่ น้อง แต่ตกลงกันให้ดีๆก่อนนะ อย่าให้มีปัญหากันภายหลัง (สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด!! คือไปจ้างคนอื่นเปิดบัญชี เพราะผิดกฎหมาย)
- วิธีสุดท้าย ถ้าท่านทำวิธีทุกอย่างข้างต้นแล้ว ก็ยังเอาไม่อยู่ เงินเข้าเยอะเหลือเกิน เปิดบริษัท น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตามบทความนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะสนับสนุนให้พ่อค้าแม่ค้าทุกท่าน หลีกเลี่ยงในการจ่ายภาษี บทความนี้อาจช่วยผู้ประกอบการมือใหม่ในการตั้งธุรกิจช่วงเริ่มต้นได้ สุดท้ายนี้ถ้ารายรับของท่านเริ่มเยอะขึ้นไปจนทำเทคนิคข้างต้นไม่ไหว ก็แสดงว่าท่านลืมตาอ้าปากได้แล้ว แนะนำให้จ่ายภาษีให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะในฐานะบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคลก็ตาม
โดย บริษัท กรุงเทพการบัญชี (1975) จำกัด